เมนู

8. กลฺยาณสีลสุตฺตวณฺณนา

[97] อฏฺฐเม กลฺยาณสีโลติ สุนฺทรสีโล, ปสตฺถสีโล, ปริปุณฺณสีโลฯ ตตฺถ สีลปาริปูรี ทฺวีหิ การเณหิ โหติ สมฺมเทว สีลวิปตฺติยา อาทีนวทสฺสเนน, สีลสมฺปตฺติยา จ อานิสํสทสฺสเนนฯ อิธ ปน สพฺพปริพนฺธวิปฺปมุตฺตสฺส สพฺพาการปริปุณฺณสฺส มคฺคสีลสฺส ผลสีลสฺส จ วเสน กลฺยาณตา เวทิตพฺพาฯ กลฺยาณธมฺโมติ สพฺเพ โพธิปกฺขิยธมฺมา อธิปฺเปตา, ตสฺมา กลฺยาณา สติปฏฺฐานาทิโพธิปกฺขิยธมฺมา เอตสฺสาติ กลฺยาณธมฺโมฯ กลฺยาณปญฺโญติ จ มคฺคผลปญฺญาวเสเนว กลฺยาณปญฺโญฯ โลกุตฺตรา เอว หิ สีลาทิธมฺมา เอกนฺตกลฺยาณา นาม อกุปฺปสภาวตฺตาฯ เกจิ ปน ‘‘จตุปาริสุทฺธิสีลวเสน กลฺยาณสีโล, วิปสฺสนามคฺคธมฺมวเสน กลฺยาณธมฺโม, มคฺคผลปญฺญาวเสน กลฺยาณปญฺโญ’’ติ วทนฺติฯ อเสกฺขา เอว เต สีลธมฺมปญฺญาติ เอเกฯ อปเร ปน ภณนฺติ – โสตาปนฺนสกทาคามีนํ มคฺคผลสีลํ กลฺยาณสีลํ นาม, ตสฺมา ‘‘กลฺยาณสีโล’’ติ อิมินา โสตาปนฺโน สกทาคามี จ คหิตา โหนฺติฯ เต หิ สีเลสุ ปริปูรการิโน นามฯ อนาคามิมคฺคผลธมฺมา อคฺคมคฺคธมฺมา จ กลฺยาณธมฺมา นามฯ ตตฺถ หิ โพธิปกฺขิยธมฺมา ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺติฯ ตสฺมา ‘‘กลฺยาณธมฺโม’’ติ อิมินา ตติยมคฺคฏฺฐโต ปฏฺฐาย ตโย อริยา คหิตา โหนฺติฯ ปญฺญากิจฺจสฺส มตฺถกปฺปตฺติยา อคฺคผเล ปญฺญา กลฺยาณปญฺญา นาม, ตสฺมา ปญฺญาเวปุลฺลปฺปตฺโต อรหา ‘‘กลฺยาณปญฺโญ’’ติ วุตฺโตฯ เอวเมว ปุคฺคลา คหิตา โหนฺตีติฯ กิํ อิมินา ปปญฺเจน? อคฺคมคฺคผลธมฺมา อิธ กลฺยาณสีลาทโย วุตฺตาติ อยมมฺหากํ ขนฺติฯ ธมฺมวิภาเคน หิ อยํ ปุคฺคลวิภาโค, น ธมฺมวิภาโคติฯ

เกวลีติ เอตฺถ เกวลํ วุจฺจติ เกนจิ อโวมิสฺสกตาย สพฺพสงฺขตวิวิตฺตํ นิพฺพานํ, ตสฺส อธิคตตฺตา อรหา เกวลีฯ อถ วา ปหานภาวนาปาริปูริยา ปริโยสานอนวชฺชธมฺมปาริปูริยา จ กลฺยาณกฏฺเฐน อพฺยาเสกสุขตาย จ เกวลํ อรหตฺตํ, ตทธิคเมน เกวลี ขีณาสโวฯ มคฺคพฺรหฺมจริยวาสํ วสิตฺวา ปริโยสาเปตฺวา ฐิโตติ วุสิตวาฯ อุตฺตเมหิ อคฺคภูเตหิ วา อเสกฺขธมฺเมหิ สมนฺนาคตตฺตา ‘‘อุตฺตมปุริโส’’ติ วุจฺจติฯ

สีลวาติ เอตฺถ เกนฏฺเฐน สีลํ? สีลนฏฺเฐน สีลํฯ กิมิทํ สีลนํ นาม? สมาธานํ, สุสีลฺยวเสน กายกมฺมาทีนํ อวิปฺปกิณฺณตาติ อตฺโถฯ อถ วา อุปธารณํ, ฌานาทิกุสลธมฺมานํ ปติฏฺฐานวเสน อาธารภาโวติ อตฺโถฯ ตสฺมา สีลติ, สีเลตีติ วา สีลํฯ อยํ ตาว สทฺทลกฺขณนเยน สีลฏฺโฐฯ อปเร ปน ‘‘สิรฏฺโฐ สีลฏฺโฐ, สีตลฏฺโฐ สีลฏฺโฐ, สิวฏฺโฐ สีลฏฺโฐ’’ติ นิรุตฺตินเยน อตฺถํ วณฺณยนฺติฯ ตยิทํ ปาริปูริโต อติสยโต วา สีลํ อสฺส อตฺถีติ สีลวา, จตุปาริสุทฺธิสีลวเสน สีลสมฺปนฺโนติ อตฺโถฯ

ตตฺถ ยํ เชฏฺฐกสีลํ , ตํ วิตฺถาเรตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ เอกจฺจานํ อาจริยานํ อธิปฺปาโยฯ

อปเรน ปน ภณนฺติ – อุภยตฺถาปิ ปาติโมกฺขสํวโร ภควตา วุตฺโตฯ ปาติโมกฺขสํวโร เอว หิ สีลํ, อิตเรสุ อินฺทฺริยสํวโร ฉทฺวารรกฺขณมตฺตเมว, อาชีวปาริสุทฺธิ ธมฺเมน ปจฺจยุปฺปาทนมตฺตเมว, ปจฺจยสนฺนิสฺสิตํ ปฏิลทฺธปจฺจเย ‘‘อิทมตฺถ’’นฺติ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภุญฺชนมตฺตเมวฯ นิปฺปริยาเยน ปาติโมกฺขสํวโรว สีลํฯ ยสฺส โส ภินฺโน, โส สีสจฺฉินฺโน ปุริโส วิย หตฺถปาเท ‘‘เสสานิ รกฺขิสฺสตี’’ติ น วตฺตพฺโพฯ ยสฺส ปน โส อโรโค, อจฺฉินฺนสีโส วิย ปุริโส, ตานิ ปุน ปากติกานิ กตฺวา รกฺขิตุํ สกฺโกติฯ ตสฺมา สีลวาติ อิมินา ปาติโมกฺขสีลเมว อุทฺทิสิตฺวา ตํ วิตฺถาเรตุํ ‘‘ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต’’ติอาทิ วุตฺตนฺติฯ

ตตฺถ ปาติโมกฺขนฺติ สิกฺขาปทสีลํฯ ตญฺหิ โย นํ ปาติ รกฺขติ, ตํ โมกฺเขติ โมเจติ อาปายิกาทีหิ ทุกฺเขหีติ ปาติโมกฺขํฯ สํวรณํ สํวโร, กายวาจาหิ อวีติกฺกโมฯ ปาติโมกฺขเมว สํวโร ปาติโมกฺขสํวโร, เตน สํวุโต ปิหิตกายวาโจติ ปาติโมกฺขสํวรสํวุโตฯ อิทมสฺส ตสฺมิํ สีเล ปติฏฺฐิตภาวปริทีปนํฯ วิหรตีติ ตทนุรูปวิหารสมงฺคิภาวปริทีปนํฯ อาจารโคจรสมฺปนฺโนติ เหฏฺฐา ปาติโมกฺขสํวรสฺส, อุปริ วิเสสานุโยคสฺส จ อุปการกธมฺมปริทีปนํฯ อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวีติ ปาติโมกฺขสีลโต อจวนธมฺมตาปริทีปนํฯ สมาทายาติ สิกฺขาปทานํ อนวเสสโต อาทานปริทีปนํฯ สิกฺขตีติ สิกฺขาย สมงฺคิภาวปริทีปนํฯ สิกฺขาปเทสูติ สิกฺขิตพฺพธมฺมปริทีปนํฯ

อปโร นโย – กิเลสานํ พลวภาวโต ปาปกิริยาย สุกรภาวโต ปุญฺญกิริยาย จ ทุกฺกรภาวโต พหุกฺขตฺตุํ อปาเยสุ ปตนสีโลติ ปาตี, ปุถุชฺชโนฯ อนิจฺจตาย วา ภวาทีสุ กมฺมเวคกฺขิตฺโต ฆฏิยนฺตํ วิย อนวฏฺฐาเนน ปริพฺภมนโต คมนสีโลติ ปาตี, มรณวเสน วา ตมฺหิ ตมฺหิ สตฺตนิกาเย อตฺตภาวสฺส ปาตนสีโลติ ปาตี, สตฺตสนฺตาโน, จิตฺตเมว วาฯ ตํ ปาตินํ สํสารทุกฺขโต โมกฺเขตีติ ปาติโมกฺโขฯ

จิตฺตสฺส หิ วิโมกฺเขน สตฺโต วิมุตฺโต ฯ ‘‘จิตฺตโวทานา วิสุชฺฌนฺตี’’ติ (สํ. นิ. 3.100) ‘‘อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺต’’นฺติ (ม. นิ. 2.206) จ วุตฺตํฯ อถ วา อวิชฺชาทินา เหตุนา สํสาเร ปตติ คจฺฉติ ปวตฺตตีติ ปาติฯ ‘‘อวิชฺชานีวรณานํ สตฺตานํ ตณฺหาสํโยชนานํ สนฺธาวตํ สํสรต’’นฺติ (สํ. นิ. 2.124; 5.520) หิ วุตฺตํฯ ตสฺส ปาติโน สตฺตสฺส ตณฺหาทิสํกิเลสตฺตยโต โมกฺโข เอเตนาติ ปาติโมกฺโขฯ ‘‘กณฺเฐกาโล’’ติอาทีนํ วิยสฺส สมาสสิทฺธิ เวทิตพฺพาฯ

อถ วา ปาเตติ วินิปาเตติ ทุกฺเขติ ปาติ, จิตฺตํฯ วุตฺตญฺหิ ‘‘จิตฺเตน นียติ โลโก, จิตฺเตน ปริกสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. 1.62)ฯ ตสฺส ปาติโน โมกฺโข เอเตนาติ ปาติโมกฺโขฯ ปตติ วา เอเตน อปายทุกฺเข สํสารทุกฺเข จาติ ปาติ, ตณฺหาทิสํกิเลโสฯ วุตฺตญฺหิ ‘‘ตณฺหา ชเนติ ปุริสํ (สํ. นิ. 1.56-57), ตณฺหาทุติโย ปุริโส’’ติ (อิติวุ. 15, 105; จูฬนิ. ปารายนานุคีติคาถานิทฺเทส 107) จ อาทิฯ ตโต ปาติโต โมกฺโขติ ปาติโมกฺโขฯ อถ วา ปตติ เอตฺถาติ ปาติ, ฉ อชฺฌตฺติกานิ พาหิรานิ จ อายตนานิฯ วุตฺตญฺหิ ‘‘ฉสุ โลโก สมุปฺปนฺโน, ฉสุ กุพฺพติ สนฺถว’’นฺติ (สํ. นิ. 1.70)ฯ ตโต ฉอชฺฌตฺติกพาหิรายตนสงฺขาตโต ปาติโต โมกฺโขติ ปาติโมกฺโขฯ อถ วา ปาโต วินิปาโต อสฺส อตฺถีติ ปาตี, สํสาโรฯ ตโต โมกฺโขติ ปาติโมกฺโขฯ อถ วา สพฺพโลกาธิปติภาวโต ธมฺมิสฺสโร ภควา ปตีติ วุจฺจติ, มุจฺจติ เอเตนาติ โมกฺโข, ปติโน โมกฺโข เตน ปญฺญตฺตตฺตาติ ปติโมกฺโข, ปติโมกฺโข เอว ปาติโมกฺโขฯ สพฺพคุณานํ วา มูลภาวโต อุตฺตมฏฺเฐน ปติ จ โส ยถาวุตฺตฏฺเฐน โมกฺโข จาติ ปติโมกฺโข, ปติโมกฺโข เอว ปาติโมกฺโขฯ ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘ปาติโมกฺขนฺติ มุขเมตํ ปมุขเมต’’นฺติ (มหาว. 135) วิตฺถาโรฯ

อถ วา อิติ ปกาเร, อตีติ อจฺจนฺตตฺเถ นิปาโตฯ ตสฺมา ปกาเรหิ อจฺจนฺตํ โมกฺเขตีติ ปาติโมกฺโขฯ อิทญฺหิ สีลํ สยํ ตทงฺควเสน, สมาธิสหิตํ ปญฺญาสหิตญฺจ วิกฺขมฺภนวเสน สมุจฺเฉทวเสน จ อจฺจนฺตํ โมกฺเขติ โมเจตีติ ปาติโมกฺขํฯ

ปติ ปติ โมกฺโขติ วา ปติโมกฺโข, ตมฺหา ตมฺหา วีติกฺกมิตพฺพโทสโต ปติ ปจฺเจกํ โมกฺโขติ อตฺโถฯ ปติโมกฺโข เอว ปาติโมกฺโขฯ โมกฺโขติ วา นิพฺพานํ, ตสฺส โมกฺขสฺส ปฏิพิมฺพภูตนฺติ ปติโมกฺขํฯ ปาติโมกฺขสีลสํวโร หิ สูริยสฺส อรุณุคฺคมนํ วิย นิพฺพานสฺส อุทยภูโต ตปฺปฏิภาโค วิย โหติ ยถารหํ กิเลสนิพฺพาปนโตติ ปติโมกฺขํ, ปติโมกฺขํ เอว ปาติโมกฺขํฯ อถ วา โมกฺขํ ปติ วตฺตติ โมกฺขาภิมุขนฺติ ปติโมกฺขํ, ปติโมกฺขเมว ปาติโมกฺขนฺติ เอวํ ตาเวตฺถ ปาติโมกฺขสทฺทสฺส อตฺโถ เวทิตพฺโพฯ

สํวรติ ปิทหติ เอเตนาติ สํวโร, ปาติโมกฺขเมว สํวโรติ ปาติโมกฺขสํวโรฯ อตฺถโต ปน ตโต ตโต วีติกฺกมิตพฺพโต วิรติโย เจตนา วา, เตน ปาติโมกฺขสํวเรน อุเปโต สมนฺนาคโต ปาติโมกฺขสํวรสํวุโตติ วุตฺโตฯ วุตฺตญฺเหตํ วิภงฺเค –

‘‘อิมินา ปาติโมกฺขสํวเรน อุเปโต โหติ สมุเปโต อุปคโต สมุปคโต สมฺปนฺโน สมนฺนาคโตฯ เตน วุจฺจติ ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต’’ติ (วิภ. 511)ฯ

วิหรตีติ อิริยาปถวิหาเรน วิหรติ, อิริยติ, วตฺตติฯ อาจารโคจรสมฺปนฺโนติ เวฬุทานาทิมิจฺฉาชีวสฺส กายปาคพฺภิยาทีนญฺจ อกรเณน, สพฺพโส อนาจารํ วชฺเชตฺวา ‘‘กายิโก อวีติกฺกโม, วาจสิโก อวีติกฺกโม’’ติ เอวํ วุตฺตภิกฺขุสารุปฺปอาจารสมฺปตฺติยา เวสิยาทิอโคจรํ วชฺเชตฺวา ปิณฺฑปาตาทิอตฺถํ อุปสงฺกมิตุํ ยุตฺตฏฺฐานสงฺขาตโคจเรน จ สมฺปนฺนตฺตา อาจารโคจรสมฺปนฺโนฯ อปิจ โย ภิกฺขุ สตฺถริ สคารโว สปฺปติสฺโส สพฺรหฺมจารีสุ สคารโว สปฺปติสฺโส หิโรตฺตปฺปสมฺปนฺโน สุนิวตฺโถ สุปารุโต ปาสาทิเกน อภิกฺกนฺเตน ปฏิกฺกนฺเตน อาโลกิเตน วิโลกิเตน สมิญฺชิเตน ปสาริเตน โอกฺขิตฺตจกฺขุ อิริยาปถสมฺปนฺโน อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร โภชเน มตฺตญฺญู ชาคริยานุยุตฺโต สติสมฺปชญฺเญน สมนฺนาคโต อปฺปิจฺโฉ สนฺตุฏฺโฐ ปวิวิตฺโต อสํสฏฺโฐ อาภิสมาจาริเกสุ สกฺกจฺจการี ครุจิตฺตีการพหุโล วิหรติ, อยํ วุจฺจติ อาจารสมฺปนฺโนฯ

โคจโร ปน – อุปนิสฺสยโคจโร, อารกฺขโคจโร, อุปนิพนฺธโคจโรติ ติวิโธฯ ตตฺถ ทสกถาวตฺถุคุณสมนฺนาคโต วุตฺตลกฺขโณ กลฺยาณมิตฺโต ยํ นิสฺสาย อสุตํ สุณาติ, สุตํ ปริโยทเปติ, กงฺขํ วิตรติ, ทิฏฺฐิํ อุชุกํ กโรติ, จิตฺตํ ปสาเทติ, ยสฺส จ อนุสิกฺขนฺโต สทฺธาย วฑฺฒติ, สีเลน, สุเตน, จาเคน, ปญฺญาย วฑฺฒติ, อยํ อุปนิสฺสยโคจโรฯ โย ภิกฺขุ อนฺตรฆรํ ปวิฏฺโฐ วีถิํ ปฏิปนฺโน โอกฺขิตฺตจกฺขุ ยุคมตฺตทสฺสาวี สํวุโต คจฺฉติ, น หตฺถิํ โอโลเกนฺโต, น อสฺสํ, น รถํ, น ปตฺติํ, น อิตฺถิํ, น ปุริสํ โอโลเกนฺโต, น อุทฺธํ โอโลเกนฺโต, น อโธ โอโลเกนฺโต, น ทิสาวิทิสา เปกฺขมาโน คจฺฉติ, อยํ อารกฺขโคจโรฯ อุปนิพนฺธโคจโร ปน จตฺตาโร สติปฏฺฐานา, ยตฺถ ภิกฺขุ อตฺตโน จิตฺตํ อุปนิพนฺธติฯ วุตฺตญฺเหตํ ภควตา –

‘‘โก จ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน โคจโร สโก เปตฺติโก วิสโย? ยทิทํ – จตฺตาโร สติปฏฺฐานา’’ติ (สํ. นิ. 5.372)ฯ

อิติ ยถาวุตฺตาย อาจารสมฺปตฺติยา อิมาย จ โคจรสมฺปตฺติยา สมนฺนาคตตฺตา อาจารโคจรสมฺปนฺโน

อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวีติ อปฺปมตฺตเกสุ อณุปฺปมาเณสุ อสญฺจิจฺจ อาปนฺนเสขิยอกุสลจิตฺตุปฺปาทาทิเภเทสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสนสีโลฯ โย หิ ภิกฺขุ ปรมาณุมตฺตํ วชฺชํ อฏฺฐสฏฺฐิโยชนสตสหสฺสุพฺเพธสิเนรุปพฺพตราชสทิสํ กตฺวา ปสฺสติ, โยปิ ภิกฺขุ สพฺพลหุกํ ทุพฺภาสิตมตฺตํ ปาราชิกสทิสํ กตฺวา ปสฺสติ, อยํ อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี นามฯ สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสูติ ยํ กิญฺจิ สิกฺขาปเทสุ สิกฺขิตพฺพํ, ตํ สพฺเพน สพฺพํ สพฺพถา สพฺพํ อนวเสสํ สมาทิยิตฺวา สิกฺขติ วตฺตติ, ปูเรตีติ อตฺโถฯ อิติ กลฺยาณสีโลติ อิมินา ปกาเรน กลฺยาณสีโล สมาโนฯ ปุคฺคลาธิฏฺฐานวเสน หิ นิทฺทิฏฺฐํ สีลํ ‘‘เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กลฺยาณสีโล โหตี’’ติ วุตฺตปุคฺคลาธิฏฺฐานวเสเนว นิคเมตฺวา ‘‘กลฺยาณธมฺโม’’ติ เอตฺถ วุตฺตธมฺเม นิทฺทิสิตุกาเมน ‘‘เตสํ ธมฺมานํ อิทํ สีลํ อธิฏฺฐาน’’นฺติ ทสฺเสตุํ ปุน ‘‘อิติ กลฺยาณสีโล’’ติ วุตฺตํฯ สตฺตนฺนํ โพธิปกฺขิยานนฺติอาทิ สพฺพํ เหฏฺฐา วุตฺตตฺถเมวฯ ปุน กลฺยาณสีโลติอาทิ นิคมนํฯ

คาถาสุ ทุกฺกฏนฺติ ทุฏฺฐุ กตํ, ทุจฺจริตนฺติ อตฺโถฯ หิริมนนฺติ หิริมนฺตํ หิริสมฺปนฺนํ, สพฺพโส ปาปปวตฺติยา ชิคุจฺฉนสภาวนฺติ อตฺโถฯ หิริมนนฺติ วา หิริสหิตจิตฺตํฯ หิริคฺคหเณเนว เจตฺถ โอตฺตปฺปมฺปิ คหิตนฺติ เวทิตพฺพํฯ หิโรตฺตปฺปคฺคหเณน จ สพฺพโส ทุจฺจริตาภาวสฺส เหตุํ ทสฺเสนฺโต กลฺยาณสีลตํ เหตุโต วิภาเวติฯ สมฺโพธีติ อริยญาณํ, ตํ คจฺฉนฺติ ภชนฺตีติ สมฺโพธิคามิโน, โพธิปกฺขิกาติ อตฺโถฯ อนุสฺสทนฺติ ราคุสฺสทาทิรหิตํฯ ‘‘ตถาวิธ’’นฺติปิ ปฐนฺติฯ ‘‘โพธิปกฺขิกานํ ธมฺมานํ ภาวนานุโยคมนุยุตฺโต’’ติ ยถา ยถา ปุพฺเพ วุตฺตํ, ตถาวิธํ ตาทิสนฺติ อตฺโถฯ ทุกฺขสฺสาติ วฏฺฏทุกฺขสฺส, วฏฺฏทุกฺขเหตุโน วาฯ อิเธว ขยมตฺตโนติ อาสวกฺขยาธิคเมน อตฺตโน วฏฺฏทุกฺขเหตุโน สมุทยปกฺขิยสฺส กิเลสคณสฺส อิเธว อิมสฺมิํเยว อตฺตภาเว ขยํ อนุปฺปาทํ ปชานาติ, วฏฺฏทุกฺขสฺเสว วา อิเธว จริมกจิตฺตนิโรเธน ขยํ ขีณภาวํ ปชานาติฯ เตหิ ธมฺเมหิ สมฺปนฺนนฺติ เตหิ ยถาวุตฺตสีลาทิธมฺเมหิ สมนฺนาคตํฯ อสิตนฺติ ตณฺหาทิฏฺฐินิสฺสยานํ ปหีนตฺตา อสิตํ, กตฺถจิ อนิสฺสิตํฯ สพฺพโลกสฺสาติ สพฺพสฺมิํ สตฺตโลเกฯ เสสํ วุตฺตนยเมวฯ

อฏฺฐมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

9. ทานสุตฺตวณฺณนา

[98] นวเม ทานนฺติ ทาตพฺพํ, สวตฺถุกา วา เจตนา ทานํ, สมฺปตฺติปริจฺจาคสฺเสตํ อธิวจนํฯ อามิสทานนฺติ จตฺตาโร ปจฺจยา เทยฺยภาววเสน อามิสทานํ นามฯ เต หิ ตณฺหาทีหิ อามสิตพฺพโต อามิสนฺติ วุจฺจนฺติฯ เตสํ วา ปริจฺจาคเจตนา อามิสทานํฯ ธมฺมทานนฺติ อิเธกจฺโจ ‘‘อิเม ธมฺมา กุสลา, อิเม ธมฺมา อกุสลา, อิเม ธมฺมา สาวชฺชา, อิเม ธมฺมา อนวชฺชา, อิเม วิญฺญุครหิตา, อิเม วิญฺญุปฺปสตฺถา; อิเม สมตฺตา สมาทินฺนา อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺติ, อิเม หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺตี’’ติ กุสลากุสลกมฺมปเถ วิภชนฺโต กมฺมกมฺมวิปาเก อิธโลกปรโลเก ปจฺจกฺขโต ทสฺเสนฺโต วิย ปากฏํ กโรนฺโต อกุสเลหิ ธมฺเมหิ นิวตฺตาเปนฺโต, กุสเลสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺฐาเปนฺโต, ธมฺมํ เทเสติ, อิทํ ธมฺมทานํฯ โย ปน ‘‘อิเม ธมฺมา อภิญฺเญยฺยา , อิเม ปริญฺเญยฺยา, อิเม ปหาตพฺพา, อิเม สจฺฉิกาตพฺพา, อิเม ภาเวตพฺพา’’ติ สจฺจานิ วิภาเวนฺโต อมตาธิคมาย ปฏิปตฺติธมฺมํ เทเสติ, อิทํ สิขาปฺปตฺตํ ธมฺมทานํ นามฯ เอตทคฺคนฺติ เอตํ อคฺคํฯ ยทิทนฺติ ยํ อิทํ ธมฺมทานํ วุตฺตํ, เอตํ อิเมสุ ทฺวีสุ ทาเนสุ อคฺคํ เสฏฺฐํ อุตฺตมํฯ วิวฏฺฏคามิธมฺมทานญฺหิ นิสฺสาย สพฺพานตฺถโต ปริมุจฺจติ, สกลํ วฏฺฏทุกฺขํ อติกฺกมติฯ โลกิยํ ปน ธมฺมทานํ สพฺเพสํ ทานานํ นิทานํ สพฺพสมฺปตฺตีนํ มูลํฯ เตนาห –

‘‘สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ, สพฺพรสํ ธมฺมรโส ชินาติ;

สพฺพรติํ ธมฺมรตี ชินาติ, ตณฺหกฺขโย สพฺพทุกฺขํ ชินาตี’’ติฯ (ธ. ป. 354) –

อภยทานเมตฺถ ธมฺมทาเนเนว สงฺคหิตนฺติ ทฏฺฐพฺพํฯ

สาธารณโภคิตาธิปฺปาเยน อตฺตนา ปริภุญฺชิตพฺพโต จตุปจฺจยโต สยเมว อภุญฺชิตฺวา ปเรสํ สํวิภชนํ อามิสสํวิภาโคฯ สาธารณโภคิตาธิปฺปาเยเนว อตฺตนา วิทิตสฺส อธิคตสฺส ธมฺมสฺส อปฺโปสฺสุกฺโก อหุตฺวา ปเรสํ อุปเทโส ธมฺมสํวิภาโคฯ จตูหิ ปจฺจเยหิ จตูหิ จ สงฺคหวตฺถูหิ ปเรสํ อนุคฺคณฺหนํ อนุกมฺปนํ อามิสานุคฺคโหฯ วุตฺตนเยเนว ธมฺเมน ปเรสํ อนุคฺคณฺหนํ อนุกมฺปนํ ธมฺมานุคฺคโหฯ เสสํ วุตฺตนยเมวฯ

คาถาสุ ยมาหุ ทานํ ปรมนฺติ ยํ ทานํ จิตฺตเขตฺตเทยฺยธมฺมานํ อุฬารภาเวน ปรมํ อุตฺตมํ, โภคสมฺปตฺติอาทีนํ วา ปูรณโต ผลนโต, ปรสฺส วา โลภมจฺฉริยาทิกสฺส ปฏิปกฺขสฺส มทฺทนโต หิํสนโต ‘‘ปรม’’นฺติ พุทฺธา ภควนฺโต อาหุฯ อนุตฺตรนฺติ ยํ ทานํ เจตนาทิสมฺปตฺติยา สาติสยปวตฺติยา อคฺคภาเวน อคฺควิปากตฺตา จ อุตฺตรรหิตํ อนุตฺตรภาวสาธนํ จาติ อาหุฯ ยํ สํวิภาคนฺติ เอตฺถาปิ ‘‘ปรมํ อนุตฺตร’’นฺติ ปททฺวยํ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํฯ อวณฺณยีติ กิตฺตยิ, ‘‘โภชนํ, ภิกฺขเว, ททมาโน ทายโก ปฏิคฺคาหกานํ ปญฺจ ฐานานิ เทตี’’ติอาทินา (อ. นิ. 5.37), ‘‘เอวํ เจ, ภิกฺขเว, สตฺตา ชาเนยฺยุํ ทานสํวิภาคสฺส วิปาก’’นฺติอาทินา (อิติวุ. 26) จ ปสํสยิฯ ยถา ปน ทานํ สํวิภาโค จ ปรมํ อนุตฺตรญฺจ โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อคฺคมฺหี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ อคฺคมฺหีติ สีลาทิคุณวิเสสโยเคน เสฏฺเฐ อนุตฺตเร ปุญฺญกฺเขตฺเต สมฺมาสมฺพุทฺเธ อริยสงฺเฆ จฯ